Top 10 สถานที่ท่องเที่ยวในภูฏาน

BY Joni Herison
Posted on 24/January/2017

คนส่วนมากที่จะไปเยือนภูฏานมักสงสัยว่า มีสถานที่ใดควรไปบ้าง นอกเหนือจาก Tiger’s Nest (Duh) และ Punakha Dzong โดยจุดหมายปลายทางทั้ง 2 แห่งก็อยู่ในลิสต์นี้อยู่แล้ว แต่เราเพิ่มสถานที่อื่นๆ ที่ต้องไปเยือน เพื่อให้ตรงกับความสนใจที่หลากหลาย นี่คือลิสต์ของ 10 สถานที่ท่องเที่ยว ที่คุณจะกลับจากภูฏานไม่ได้ หากยังไม่ได้ไปเยือน สถานที่เหล่านี้ไปชมได้ตลอดทุกฤดูกาล คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดหากคุณเดินทางในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว

1.  วัดถ้ำเสือ (Tiger's Nest)

เราจะเริ่มต้นลิสต์ด้วยสิ่งอื่นได้อย่างไร?! ใช่แล้ว เราทราบดี คุณคงได้เห็นรูปภาพบนเฟซบุคของผู้คน เป็นรูปโปรไฟล์บ้าง รูปหน้าปกบ้าง หรือบนอินสตาแกรม และในนิตยสาร ว่าง่ายๆ คือทุกๆ รูปภาพที่ส่งเสริมการเที่ยวภูฏานเลยก็ว่าได้
ข้อมูลพื้นฐาน: เมื่อนาน นานมาแล้ว (จริงๆ คือศตวรรษ 8) Guru Rinpoche ได้ขึ้นขี่บนหลังเสือ และทะยานจากทิเบตมายังสถานที่แห่งนี้ จากนั้นได้ใช้เวลา 3 ปี, 3 เดือน, 3 สัปดาห์, 3 วัน และ 3 ชั่วโมง บำเพ็ญภาวนาอยู่ในถ้ำบริเวณใกล้เคียง
 
วัดที่เรียกว่า วัดถ้ำเสือ (Tiger’s Nest) หรือวัด Paro Taktsang หรือ Taktsang Phalpug ถูกสร้างขึ้นหลังจากนั้น ในศตวรรษที่ 17
เอาล่ะ หากเราตัดทุกอย่างออกไป และไกด์จะไม่มีอะไรบอกคุณ ในขณะที่คุณขึ้นไปสูงถึง 10,000 ฟุต เพื่อชมความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรม และเราจะปล่อยคุณไว้อย่างนี้ ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่คุณเคยเห็นวัดนี้ที่ไหนมาก่อน ความสุดยอดจะยิ่งมากขึ้นหลายเท่าเมื่อคุณได้มาเห็นของจริง นี่เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของภูฏาน และนี่เป็นสาเหตุให้วัดนี้อยู่อันดับ #1 ในลิสต์นี้

2. อนุสรณ์สถานแห่งชาติ

การมาเยือน Thimphu คงไม่สมบูรณ์หากขาดหนึ่งในอนุสรณ์อันเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ Thimphu ค้นหาจิตวิญญาณแห่งเซน (zen) ในตัวคุณได้ที่ chorten (บัลลังก์แห่งศรัทธา) แห่งนี้ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่สมเด็จพระราชาธิบดี Jigme Dorji Wangchuck กษัตริย์องค์ที่ 3
 
คุณจะได้ชมคนท้องถิ่นเดินวนรอบอนุสรณ์แห่งนี้ตลอดทั้งวัน (พวกเขาเดินตามเข็มนาฬิกา หากคุณต้องการไปร่วมด้วย) แม้แต่ผู้ที่ไม่ใช่ชาวพุทธก็สามารถซาบซึ้งไปกับ Chorten แห่งนี้ จากสถาปัตยกรรม งานศิลปะที่สลับซับซ้อน มันดาลาที่วิจิตรและละเอียดอ่อน และประติมากรรมต่างๆ  
 
บรรยากาศเงียบสงบใน Chorten แห่งนี้เหมาะแก่การฝึกสมาธิ หากคุณต้องการหาช่วงเวลาแห่งความสงบภายใน และลองปั่นกงล้ออธิษฐานก่อนกลับไปด้วย เชื่อกันว่าเพื่อขจัดสิ่งชั่วร้าย ก่อเกิดความเมตตากรุณา และนำพาสันติภาพมาสู่สรรพชีวิต

3. จุดชมวิว Dochula

หากมีการประกวดความนิยม จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูฏาน Dochula คงชนะไปอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ชุดชมวิวบนเขานี้ตั้งอยู่บนเส้นทางจาก Thimphu ไปสู่ Punakha เราแนะนำอย่างยิ่งให้ลงจากรถเพื่อชมวิว ในวันที่ปลอดโปร่ง วิวอันงดงามน่าทึ่งของยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมบนเทือกเขาหิมาลัยจะปรากฏ (เป็นเวลาดีที่สุดที่จะใช้โหมดพาโนรามาในกล้องโทรศัพท์!)
 
คุณจะได้ใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวกับอนุสรณ์ chorten (สถูป) ทั้ง 108 แห่ง ที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระราชมารดา Ashi Dorji Wangmo Wangchuk  เพื่อระลึกถึงทหารที่สละชีวิตในการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายอัสสัม ในปี 2003 ในขณะอยู่ที่นั่น ลองไปชม Druk Wangyal Lhakhang (วัด) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชาธิบดี Jigme Singye Wangchuck กษัตริย์องค์ที่ 4 อันเป็นที่รักและเคารพเทิดทูล

4. จุดชมวิว Chelela 

เมื่อคุณกำลังอยู่ในหัวข้อเกี่ยวกับจุดชมวิวบนเขา เราคิดว่าควรแนะนำจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมอีกแห่ง ได้แก่ จุดชมวิว Chelela นี่เป็นเส้นทางที่รถผ่านได้ที่สูงที่สุดในภูฏาน ดังนั้น หากคุณกลัวความสูง อย่ามองลงไปล่ะ! ใช้เวลาขับรถ 2 ชั่วโมงจาก Paro นักท่องเที่ยวจะผ่าน จุดชมวิว Chelela ระหว่างทางไปหุบเขา Haa
 
หากคุณไม่สนใจการปีนเขา Jomolhari แต่อยากจะแอบมองจากจุดที่สูงที่สุด นี่เป็นหนึ่งในที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมวิว
ขณะอยู่ที่นั่น ลองใช้เวลาสักนาที หลับตาลง สูดอากาศบริสุทธิ์บนภูเขา โดยมีหมู่เมฆอยู่ข้างใต้ ไม่ยากเลยที่จะรู้สึกว่าคุณกำลังอยู่บนจุดเหนือสุดของโลก! แต่หากคุณไม่ได้ชื่นชอบอะไรแบบนั้น คุณก็สามารถนั่งลงปิกนิกได้ 

5. Punakha Dzong

มารดาแห่งซอง (dzongs) ในดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า พวกเขาไม่ได้เรียก Punakha Dzong ว่าเป็น Dzong ที่สวยที่สุดในประเทศ (บางคนกล่าวว่าของโลก) อย่างลอยๆ ทั้งโครงสร้างที่ทำนายไว้โดย Guru Rinpoche งานสำคัญและยิ่งใหญ่มากมายถูกเฉลิมฉลองที่นี่ จากการราชาภิเษกกษัตริย์ทุกพระองค์ของภูฏาน, เป็นสมัชชาแห่งชาติที่แรกของประเทศ และพิธีอภิเษกสมรสในปี 2011
ที่นี่ยังหลงเหลือร่องรอยของที่พำนักในช่วงฤดูหนาวของพระ ซึ่งนำโดย Je Khenpo (สังฆราช) ร่างที่ยังคงถูกรักษาไว้ของ Zhabdrung Ngawang Namgyal ซึ่งเป็นผู้รวมประเทศภูฏาน ก็อยู่ภายในกำแพงศักดิ์สิทธ์นี้ เราจะซาบซึ้งถึงความยิ่งใหญ่อันสง่างามของ Punakha Dzong ก็ต่อเมื่อได้มาชื่นชมใกล้ๆ ในวันที่อากาศแจ่มใส มันเป็นภาพที่ตราตรึงทีเดียว

6. สถาบันแห่งชาติ Zorig Chusum

สถาบันแห่งชาติ Zorig Chusum เป็นศูนย์การฝึกอบรมด้านศิลปะของภูฏาน พวกเขามุ่งหมายที่จะรักษาศิลปะท้องถิ่นไว้ โดยการฟื้นฟูและส่งเสริมวิธีแบบดั้งเดิม สถาบันแห่งนี้ฝึกฝนช่างฝีมือรุ่นเยาว์ในท้องถิ่น 4 – 6 ปี ใน 13 ศิลปะดั้งเดิมของภูฏาน ได้แก่ งานไม้, การกลึงไม้, งานหิน, งานเหล็ก, การแกะสลัก, ประติมากรรม, การหล่อหรือพิมพ์รอย, การทำเครื่องประดับ, การทำกระดาษ, งานไม้ไผ่, การเขียนภาพ, การทอ, การตัดเย็บ, การเย็บปักถักร้อย และศิลปะการปะติด *Phew* นั่นเยอะมากทีเดียว
 
คุณสามารถมาชมการทำงานศิลปะต่างๆ ทั้งหมดนี้ได้ และพูดคุยกับนักเรียนในชั้นเรียนขณะพวกเขากำลังทำผลงานอยู่ ที่นี่มีห้องจัดแสดงสำหรับขายผลงานที่ทำโดยนักเรียน หากคุณรู้สึกอยากซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับไป

7. สะพานแขวน Punakha 

หากคุณคิดว่า “ผู้คนสร้างกำแพงมากเกินไป แต่สร้างสะพานไม่เพียงพอ” ให้มาที่สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในภูฏานนี้ดู และพิสูจน์ว่าคุณคิดผิด! สะพานนี้ทอดยาว 350 เมตร เหนือแม่น้ำ Po Chhu โดยมีธงบูชาโบกสะบัดอย่างเงียบสงบอยู่ข้างๆ แน่ใจว่าคุณจะหลั่งอดรีนาลีนออกมาเล็กน้อยขณะยืนอยู่ที่จุดกึ่งกลางและมองลงไปยังสายน้ำที่เชี่ยวกรากข้างใต้ และเมื่อคุณมองขึ้นไป ก็จะต้องมีชั่วขณะที่คิดว่า “วิวนั้นเยี่ยม” แน่นอน หุบเขา Punakha จะดูราวกับโปสต์การ์ด จากจุดที่คุณยืนอยู่

8. สถาบันการศึกษาสิ่งทอหลวง (Royal textile academy)

ชาวภูฏานภาคภูมิใจในเครื่องแต่งกายประจำชาติเป็นอย่างมาก Gho และ Kira (ซึ่งหากคุณเดินทางไปกับเรา เราจะจัดเตรียมให้ฟรี ระหว่างอยู่ที่นี่ *wink wink*) และสถาบันการศึกษาสิ่งทอหลวง ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2005 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศิลปะสิ่งทอในภูฏาน ภายใต้การอุปถัมภ์ของสมเด็จพระราชินี Ashi Sangay Choden Wangchuck   
 
สถาบันนี้ประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์สิ่งทอ, ศูนย์การทอผ้า, ศูนย์อนุรักษ์ และศูนย์มรดกทางวัฒนธรรม Thagzo (การทอผ้า) ถือเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมภูฏาน และนอกเหนือจากการพยายามรักษาและส่งเสริมศิลปะนี้แล้ว สถาบันการศึกษาสิ่งทอหลวงยังจัดการฝึกอบรมคนพื้นเมืองในด้านศิลปะการทอผ้า เพื่อช่วยส่งเสริมการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน มาชมผลงานชิ้นเอกระดับชาติที่สวยงามได้อย่างใกล้ชิด และอาจมีโอกาสได้เข้าไปนั่งในบ้างชั้นเรียนด้วย

9. ตลาดการเกษตร 100 ปี

มีวิธีไหนที่จะสัมผัสวัฒนธรรมภูฏานได้ดีไปกว่าการไปเยี่ยมชมตลาดการเกษตรในย่านที่อยู่ที่เป็นมิตรล่ะ? ตลาดตั้งอยู่ใกล้กับ Coronation Park ด้านล่างเมืองหลัก ตลาดการเกษตร 100 ปี จะมีชีวิตชีวาในวันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ ซึ่งเกษตรกรในท้องถิ่นจะมารวมตัวเพื่อขายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสดใหม่
 
นี่เป็นตลาดในประเทศที่ใหญ่ที่สุดของภูฏาน ดังนั้น เตรียมมาสนุกกันให้เต็มที่ คุณจะได้พบผักและผลไม้ในท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์จากนม อาหารแห้ง สัตว์ปีก เนื้อ และแม้แต่ธูป ภูฏานนั้นเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ได้ให้คำมั่นว่าจะเป็นออร์แกนิกอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2020 ดังนั้น นี่เป็นโอกาสของคุณที่จะได้พบปะกับเกษตรกรที่ใจกลางของการเคลื่อนไหวนี้ และได้พูดคุยกับคนท้องถิ่นที่เป็นมิตรซึ่งกำลังจับจ่ายซื้อสินค้าประจำสัปดาห์

10. พระพุทธรูป Dordenma 

หากคุณกำลังแสวงหาการรู้แจ้ง เราอาจไม่มีเครื่องชี้ทางให้คุณมากนัก แต่เราสามารถบอกทางคุณไปยังปฏิมาของหนึ่งในผู้รู้แจ้งที่สุดตลอดกาลได้ เป็นที่ทราบกันในกลุ่มคนท้องถิ่นว่า พระพุทธรูป Dordenma เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูงถึง 51.5 เมตร ภายในพระพุทธรูป จะมีพระพุทธรูปที่ขนาดเล็กกว่าอีก 125,000 องค์ประดิษฐานอยู่ 
 
พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บนสุดของอุทยานแห่งชาติ Kuenselphodrang ณ จุดที่พระพุทธรูปประดิษฐาน จะมองเห็นทางเข้าด้านทิศใต้ของ Thimphu ลองใช้เวลาสักครูเพื่อซึมซับความสงบและสวยงามของหุบเขาใน Thimphu กับองค์พระพุทธรูป (ทั้ง 125,001 องค์) ที่อยู่เหลือไหล่ของคุณ ชื่นชมแสงไฟสว่างไสวรอบพระพุทธรูปยามค่ำคืน นี่เป็นภาพที่น่าชมมากทีเดียว 
สำหรับทิปทั่วๆ ไป จากผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวภูฏานผู้ใจดี สมัครเพื่อรับจดหมายข่าวได้ที่ drukasia.com หรือหากคุณมีข้อสงสัย ส่งอีเมล์มาหาเราได้ที่นี่  : [email protected] 
 

MORE BLOG

Planning to go Bhutan?

Join 16,710 travelers who have benefited from our expertise.